| 
	
		|  |  
		|  |  
		|  |  
		|  |  
		|  |  | 
	
		| สถิติผู้เข้าชม |  
		|  ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ | 2 |  
		|  ผู้เข้าชมในวันนี้ | 178 |  
		|  ผู้เข้าชมทั้งหมด | 3,045,937 |  
		|  เปิดเว็บ | 11/03/2554 |  
		|  ปรับปรุงเว็บ | 02/03/2567 |  |  | 	
		| การดูแลรักษารถของท่านด้วยตนเอง |  
		|  |  | 
	
		| เมื่อรถยางแตกขณะขับรถ [19 กุมภาพันธ์ 2556  11:58 น.]จำนวนผู้เข้าชม 6320 คน
 |  
		|  |  
		| 
	เมื่อรถยางแตกขณะขับรถ มีข้อแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ 
 1. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง
 2. ถอนคันเร่งออก
 3. ควบคุมสติให้ดีอย่าตกใจ มองกระจกหลังเพื่อให้ทราบว่ามีรถใดตามมาบ้าง
 4. แตะเบรกอย่างแผ่วเบาและถี่ๆ อย่าแตะแรงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน
 5. ห้ามเหยียบคลัตช์โดยเด็ดขาดเพราะถ้าเหยียบคลัตช์รถจะไม่เกาะถนนรถจะลอยตัว และจะทำให้บังคับรถได้ยากยิ่งขึ้น อาจเสียหลัก เพราะการเหยียบคลัตช์เป็นการตัดแรงบิดของเครื่องยนต์ ให้ขาดจากเพลา
 6. ห้ามดึงเบรกมืออย่างเด็ดขาด จะทำให้รถหมุน
 7. เมื่อความเร็วรถลดลงพอประมาณแล้วให้ยกเลี้ยวสัญญาณเข้าข้างทางซ้ายมือ
 8. เมื่อความเร็วลดลงระดับควบคุมได้ ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงและหยุดรถข้อสังเกตเมื่อยางระเบิด คือ ไม่ว่ายางด้านใดจะระเบิดล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม เมื่อระเบิดด้านซ้ายรถก็จะแฉลบไปด้านซ้ายก่อน แล้วก็จะสะบัดกลับ และสะบัดไปด้านซ้ายอีกที สลับกันไปมา และในทำนองตรงกันข้าม หากระเบิดด้านขวาอาการก็จะกลับเป็นตรงกันข้ามอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นส่วนมากก็ คือ หากขณะยางระเบิดรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วสูงมากๆ พอยางระเบิดขึ้นมารถก็จะกลิ้งทันที ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นการขับรถที่ใช้ความเร็วสูงๆจึงมักจะแก้ไขอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น ในขณะขับรถ จึงไม่ควรขับรถเร็ว ความเร็วทีถือว่าปลอดภัยใน DEFENSIVE DRIVING คือ ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
 
	  
	 
	  
	ขอขอบคุณ zabzaa.com 
	ภาพจาก internet |  
 |  
 |