ตัวแทนจำหน่ายและอู่ติดตั้ง
สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 2
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 110
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 2,751,181
 เปิดเว็บ 11/03/2554
 ปรับปรุงเว็บ 02/03/2567

  การดูแลรักษารถของท่านด้วยตนเอง
การดูแลรักษารถหลังน้ำท่วม
[25 เมษายน 2554 13:23 น.]จำนวนผู้เข้าชม 7603 คน

ตอนนี้เหตุการน้ำท่วมยังเป็นปัญหากับเมืองไทยของเราแทบจะทุกจังหวัด ทางเว็บจึงอยากเสนอวิธีการรักษาดูแลรถที่ประสบภัยน้ำท่วมครับ

แม้นี่จะเป็นความทุข์ยากตอนน้ำมาแต่จะชีช้ำยิ่งกว่าเมื่อตอนน้ำลดที่ข้าว ของต่างๆได้รับความเสียหาย และหนึ่งในบรรดาของหลายๆ อย่างนั้น คงเป็นรถยนต์ที่จมน้ำหลายร้อยคันเลยทีเดียว

น้ำท่วม

การดูแลรถยนต์ในสถานการณ์น้ำท่วมนั้น ความจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแต่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการทำให้รถ ของท่านกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง และมันก็ไม่ยากถ้าคุณรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างทันทีที่น้ำลด

1.อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่ออุทกภัยจากไปและคุณอยากใช้รถ หลายคนอยากที่จะดูว่าทรัพย์สินอยู่ดีหรือไม่ โดยเฉพาะรถยนต์ที่หลายคนมักจะรีบไปสตาร์ทดูว่าจะใช้งานได้อยู่หรือไม่ ในกรณีนี้ขั้นแรกไม่ควรสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด ให้เปิดฝากระโปรง ดูความเสียหายภายในห้องเครื่องยนต์ก่อนว่า มีน้ำอยู่ในชิ้นส่วนใดบ้าง โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ ที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์นั้น ยิ่งไม่ควรสตาร์ทรถทันทีเป็นอย่างยิ่ง

น้ำท่วม


2. ลากไปอู่ นี่อาจเป็นข่าวดีและฝันร้ายสำหรับบรรดาช่างเครื่องทั้งหลายที่คงจะต้องมีงาน ให้ลากยาวถึงปีใหม่กันเลยทีเดียว แต่เมื่อคุณคิดว่าพร้อม ก็จัดการลากไปให้ผู้เชี่ยวชาญดู โดยกำชับว่ารถคุณถูกน้ำท่วมมา ซึ่งปกติแล้วจะแยกเป็น 2 กรณี
กรณีแรกที่น้ำท่วมไม่เยอะนั้น ระบบเครื่องยนต์อาจจะได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยเฉพาะถ้าน้ำท่วมไม่มากจนรถของคุณไม่ดำน้ำลงไปทั้งคันนั้น ช่างก็จะไล่ระบบอากาศ โดยเฉพาะกรองอากาศจะต้องลดความชื้น ตรวจสอบหัวเทียน และกล่องควบคุมการทำงาน ที่ต้องมีการไร้ความชื้นเป็นอย่างดี ก่อนที่ช่างจะสตาร์ทเครื่อง ซึ่งโดยมากก็จะมีค่าใช้จ่ายระดับ 5000 -10000 บาท
กรณีที่ 2 ท่วมแบบจมหายทั้งคันนั้น โดยมาก ช่างจะต้องทำงานกันหนักหน่อย และนั่นอาจหมายถึงการผ่าเครื่องยนต์ เพื่อตรวจสอบน้ำที่เข้าสู่เสื้อสูบว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใด และทำการไล่น้ำความชื้น และถ้าเครื่องของท่านมีอาการหลวมร่วมด้วยอยู่แล้ว มันก็เป็นโอกาสที่จะโอเวอร์ฮอลเครื่องยนต์ไปพร้อมกัน เพราะยังไงช่างต้องผ่าเครื่องออกอยู่แล้ว

น้ำท่วม

3.ถ่ายของเหลวทุกชนิด จำ ไว้ว่าน้ำมันไม่ถูกกับน้ำ และโดยมากที่เราแนะให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญก็เพราะ เขาจะจัดการให้หมดรวมถึงน้ำมันเครื่อง แต่เมื่อเครื่องยนต์ใช้ได้ ท่านควรจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ โดยเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ และน้ำมันเฟืองท้าย ที่อาจเกิดการเสื่อมคุณภาพได้ หากมีน้ำเข้าไปผสมอยู่ด้วย นี่ยังรวมถึงน้ำมันในถังเพื่อความปลอดภัยด้วย
4. จัดการชุดภายใน นี่ เป็นเรื่องที่คุณควรทำอย่างยิ่งโดยเฉพาะรถเก๋งที่โดยมากมักมาพร้อมพรมปูพื้น การซักพรมและชุดภายในเป็นสิ่งที่สมควรทำอย่างรวดเร็วและทันที เพื่อลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นี่ยังรวมถึงชุดเบาะและอื่นๆอีกด้วยที่ควรจะจัดการเสียให้หมดจดหลังน้ำท่วม

การดูแลรักษารถของท่านด้วยตนเอง
- การใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- เผยความหมาย เลขทะเบียนรถมงคล [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- ถอดแบตเตอรี่อย่างไรจึงจะปลอดภัย [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- การจัมพ์แบตเตอรี่อย่างถูกต้องและปลอดภัยทั้งรถและตัวคุณ [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- ลมไนโตรเจนแนวคิดใหม่ในการสูบลมยางทุกชนิด [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- การเลือกใช้วัสดุสำหรับเบาะรถยนต์ รวมถึงข้อดีข้อเสีย [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- การเลือกล้อแมกซ์ให้เหมาะสมกับรถ [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- เมื่อรถยางแตกขณะขับรถ [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- ทำยังไงถ้าขับรถตกน้ำ [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
- 7 วิธี ขับประหยัดกับเกียร์ ออโต้ [25 เมษายน 2554 13:23 น.]
ดูทั้งหมด

Engine by MAKEWEBEASY