เมื่อ 29 พ.ค. รัฐบาลอียิปต์ประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีปรากฏว่า จอมพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี อดีตผู้บัญชาการทหารบก คว้าชัยชนะถล่มทลายเหนือคู่แข่งเพียงคนเดียวคือนายฮัมดีน ซาบบาฮี หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านนิยมซ้ายจัด โดยได้คะแนนเสียงมากถึง 96 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งราว 24.7 ล้านคน ส่วนนายซาบบาฮี ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนไม่ถึง 4 เปอร์เซ็นต์
จอมพลอัล-ซิซี ถือเป็นอดีตนายทหารคนที่ 5 ของอียิปต์ที่ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศ ทั้งคือแกนนำการขับไล่อดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี ผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวภราดรภาพมุสลิม ลงจากอำนาจเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว ทำให้ประชาคมโลกมองว่าอียิปต์กำลังกลับเข้าสู่การปกครองโดยบุคคลในกองทัพอีกระลอกนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจการปกครองประเทศมาตลอดหลังการโค่นอำนาจการปกครองระบอบกษัตริย์เมื่อปี 2495 ขณะที่นายมูร์ซี คือประธานาธิบดีพลเรือนที่ได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2555 หลังการโค่นอำนาจอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคได้เพียง 1 ปี ซึ่งนายมูบารัคก็เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ
การเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์ครั้งนี้ กลุ่มเคลื่อนไหวภราดรภาพมุสลิมประกาศคว่ำบาตร ขณะที่กองทัพสนับสนุนอดีตจอมพลอัล-ซิซีอย่างเต็มที่ด้วยการสั่งขยายการเลือกตั้งออกไปถึง 3 วัน เพื่อหวังผลคะแนนเลือกตั้งให้จอมพลอัล-ซิซีอย่างท่วมท้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าหากอดีตจอมพลอัล-ซิซีได้คะแนนเสียงไม่มากพออาจกระทบถึงภาพลักษณ์ เนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่แล้ว นายมูร์ซีชนะด้วยคะแนน เสียงส่วนใหญ่เพียง 52 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของจอมพลอัล-ซิซี ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนหลายร้อยคนพากันออกมาเดินขบวนแสดงความยินดีกลางกรุงไคโร ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก.