หลังจากค่ายโตโยต้าเปิดตัวรถสปอร์ต 86 (ในยุโรปใช้ชื่อว่า จีที 86) ในบ้านเราเมื่อต้นปีที่ผ่านมา 3 รุ่น คือ รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคา 2.49 ล้านบาท, รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 2.56 ล้านบาท และรุ่นท็อปของเกียร์อัตโนมัติ 2.74 ล้านบาท โดยรถทั้ง 3 รุ่นใช้เกียร์ 6 สปีด จนทำให้โควตาที่ได้รับจากบริษัทแม่ 100 คันหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเพื่อพิสูจน์ความแรงทางโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ทีเอ็มซี) และ โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก (TMAP) จึงเชิญสื่อมวลชนจาก 7 ประเทศ คือ ไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ เข้าร่วมทดสอบโตโยต้า 86 ที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
   
สำหรับโตโยต้า 86 ได้ปรับโฉมใหม่ให้มีความปลอดภัย ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวแฝงความดุดันและไม่น่าเบื่อ เส้นสายที่ออกแบบมองเห็นมัดกล้ามชัดเจน การจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ที่สมดุลทั้งเครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ที่นั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า รวมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานง่ายใกล้มือ พวงมาลัย 3 ก้านจับเหมาะมือนั้นมีระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย สามารถเลือกขับในโหมดเกียร์ธรรมดาให้ความรู้สึกสนุกสนาน ดังนั้น 86 จึงเป็นรถยุคใหม่ของแบรนด์โตโยต้าที่เน้นคุณภาพและความปลอดภัยรวมทั้งการกลับมาสร้างความรับรู้และความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย
   
โตโยต้าใช้สนามบินเมนดิก ทดสอบรถ 86 ที่จัดไว้ให้ 5 คัน มีทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำแต่ละคัน เริ่มต้นเจ้าหน้าที่จะขับให้นั่งเพื่อศึกษาเส้นทางก่อน 1 รอบ โดยแบ่งเป็นสถานีทดสอบการยึดเกาะถนนในช่วงเข้าโค้งด้วยความเร็วต่ำ 90 กม./ชม. หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนเลน แล้วเข้าสู่ช่วงทางตรง ก่อนหยุดรถฉุกเฉินเพื่อทดสอบระบบเบรก แล้วมาปิดท้ายที่การเบรกบนถนนเปียกลื่นหลังจากศึกษาเส้นทางการขับแล้วจึงเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชน และ 86 ที่ “เดลินิวส์” ได้คือ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และการขับช่วงแรกที่ยังไม่คุ้นกับพวงมาลัยซ้าย ทำให้การกะระยะไม่แม่นพอจึงกวาดกรวยไป 4 อัน อย่างไรก็ตามหลังจากเข้ารอบที่ 2 และ 3 นั้นเริ่มปรับระยะได้ จึงทำให้การขับสนุกตื่นเต้นเมื่อขับเข้าโค้งพิสูจน์การยึดเกาะได้มั่นใจ ส่วนช่วงเปลี่ยนเลนทำได้ดีเพราะวงเลี้ยวแคบสามารถผ่านด่านไปได้ตามมาตรฐานที่ทีมงานจัดไว้ เช่นเดียวกับช่วงทำความเร็วในทางตรงนั้นพบว่าทั้งกำลัง 200 แรงม้าของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รุ่น BOXER+D-4S ซึ่งพัฒนาร่วมกับซูบารุนั้นทำงานลงตัวเรียกว่ากดคันเร่งเมื่อไหร่ความเร็วมาได้ดั่งใจ เมื่อมาถึงช่วงเบรกกะทันหันระบบเบรกเอบีเอสทำงานดีเช่นเดียวกับการเบรกบนถนนเปียกลื่นที่ความเร็ว 55 กม./ชม. พบว่าควบคุมพวงมาลัยและหยุดรถได้อย่างมั่นใจ อย่างไรก็ตามเพื่อให้เห็นว่าโตโยต้า 86 มีพละกำลังเพียงพอที่จะเป็นรถสปอร์ตจากแดนปลาดิบที่ไม่ด้อยไปกว่าฝั่งยุโรป โตโยต้าจึงจัดให้นั่ง 86 กับนักดริฟท์เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถเต็ม ๆ


   
วันต่อมาจึงพิสูจน์บนท้องถนนจริง ๆโดยทีมงานโตโยต้าได้จัด 86 ให้สื่อมวลชนขับ ซึ่งรถที่ได้ขับนั้นเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติอีกครั้ง โดยออกจากจุดเริ่มต้นที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ เมืองโคโลญจน์ การจราจรคล่องตัวตั้งแต่เช้า อากาศเย็นสบาย มุ่งหน้าออกนอกเมืองได้ชมวิวทิวทัศน์ 2 ข้างทางที่สวยงามร่มรื่น และลัดเลาะไปตามถนนเล็ก ๆ ของชนบท ก่อนลงแพข้ามไปถึงจุดชมวิว ซึ่งเป็นไร่องุ่นที่มองเห็นหมู่บ้านเรียงรายอยู่ในหุบเขา จากนั้นจึงแวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่ KLOSTER MARIENTHAL ระยะทางช่วงนี้ประมาณ 80 กม. เมื่ออิ่มหนำสำราญก็เดินทางต่อ โดยเซตระยะรถไว้ที่ 0 กม. เหมือนเดิม ขับผ่านเข้าเมืองแวะจิบน้ำชาที่ AT STEIGENBERGER HOTEL ก่อนมุ่งหน้าสู่ถนนเส้นหลัก ในช่วงนี้สามารถทำความเร็วได้เต็มที่ ปรากฏว่าเจ้า 86 พุ่งทะยานได้มากกว่า 200 กม./ชม. แบบไม่รู้ตัวสามารถเทียบรุ่นเจ้าถนนสายพันธุ์ยุโรปที่ขับไล่หลังมาติด ๆ ได้สบาย ๆ รวมระยะทางช่วงนี้กว่า 100 กม.


   
อย่างไรก็ตามการทดสอบโตโยต้า 86 ในสนามและท้องถนนที่เมืองโคโลญจน์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดรถสปอร์ตของโตโยต้า แม้ใช้เวลาไม่นานนัก แต่สามารถพิสูจน์สมรรถนะรถสปอร์ตสายพันธุ์ปลาดิบได้ว่าไม่ด้อยไปกว่ารถสปอร์ตจากฝั่งยุโรปเช่นกัน.