ตัวแทนจำหน่ายและอู่ติดตั้ง
สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 3
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 576
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 2,760,772
 เปิดเว็บ 11/03/2554
 ปรับปรุงเว็บ 02/03/2567

  ข่าวยานยนต์
INSIDE FERRARI F12 FRONT ENGINE SUPER CAR
[19 กันยายน 2555 09:48 น.]จำนวนผู้เข้าชม 2721 คน

V12 730 แรงม้า 0-200 กิโลเมตรใน 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 345 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์วางด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง นี่คือซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายม้าลำพอง ตัวตายตัวแทนของ 599 Fiorano ปิศาจแห่งความเร็วในยุคนี้ Ferrari F12...

Ferrari F12 จักรกลแห่งความเร็วคันล่าสุดของค่ายม้าลำพอง รถซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่แรงและเร็วที่สุดของ Maranello ที่มอบทั้งความสบายยามเดินทางพร้อมๆไปกับพละกำลังอันดุเดือดเลือดพล่านที่ ระดับ 730 แรงม้า จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมากกว่าปกติและเทคโนโลยีใหม่ของเครื่องยนต์กับชุดส่งกำลัง บนตัวถังอัลลอยสุดแกร่ง ก่อกำเนิดซุปเปอร์คาร์ที่สามารถลบสถิติของรถ Ferrari ทุกรุ่นในประวัติศาสตร์ลงได้อย่างสิ้นเชิง



Aerodynamics
เมื่อต้องวิ่งด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากไม่มีแรงกดมากพอที่จะต้านกับกระแสลมในระดับความเร็วดังกล่าว วัตถุทุกชนิดที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วในระดับนั้นจะเริ่มเหินขึ้นสู่ท้องฟ้า ระบบอากาศพลศาสตร์ของ Ferrari F12 จึงมีความสำคัญอย่างสูงสุด ชิ้นส่วนของด้านหน้าที่ออกแบบโดยผ่านการทดสอบจากอุโมงค์ลมความเร็วสูงจะช่วยทำลายแรงยกตัวที่เกิดขึ้น เมื่อกระแสลมความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรปะทะเข้าที่ส่วนหน้าของตัวรถ ล้อและแก้มข้างที่โป่งนูนออกมาเพื่อความสวยงามยังเป็นตัวการที่ต้านลมมากและก่อให้เกิดแรงเสียดทานที่มากจนเกินความจำเป็น Aero Bridge ของ F12 จึงเข้ามารับหน้าที่ถ่ายเทอากาศที่ไหลมาปะทะด้วยความเร็วสูง ลงมาตามช่องอากาศที่แก้มทั้งสองข้าง รถ Ferrari F12 สามารถสร้างแรงกดของตัวถังจากการออกแบบรูปทรงได้มากถึง 123 กิโลกรัมเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีค่าสัมประสิทธิแรงต้านทานของอากาศที่ 0.29 (CD 0.29) ส่วนช่องรับและระบายอากาศรอบๆ คันไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงาม เนื่องจากมันต้องใช้ดักลมเข้ามาระบายความร้อนให้กับเบรก ระบบเปิด-ปิดช่องดักลมแบบอัตโนมัติช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ในยามที่ไม่ต้องการใช้งานระบบจะปิดช่องดักลมดังกล่าวทิ้งทันทีเพื่อให้เกิดความลู่ลมอย่างสูงสุด ระบบจะคำนวณอุณหภูมิของชุดเบรกล่วงหน้าผ่านเซ็นเซอร​์ เมื่อตรวจพบความร้อน มันจะสั่งงานให้ช่องดักลมเปิดออกเพื่อนำอากาศเข้ามาระบายความร้อนให้กับจาน และคาร์ลิปเปอร์เบรกของ Bermbo ทันที



V12 Front Engine Rear Wheel Drive
เครื่องยนต์ รูปตัว V ขนาด 12 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 6,262 ซีซี วางทำมุม 65 องศา ให้กำลังสูงสุดถึง 730 แรงม้า ฝาครอบแคมชาร์ปพ่นทรายเนื้อสากสีแดงตามสไตล์ของ Ferrari ถูกคลุมทับด้วยท่อไอดีทรงยาวรีที่ออกแบบได้อย่างสวยงาม ความยาวของท่อไอดีขนานไปกับแนวของฝาสูบ ส่วนหน้าของท่อไอดีออกแบบให้มีชิ้นส่วนที่ยื่นออกมาเพื่อช่วยในการปรับแต่ง เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ไปตามรอบที่ขึ้น-ลงอยู่ตลอดเวลาเมื่อขับใช้งาน ระบบหล่อลื่นแบบ Dry sump ทำให้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางไม่สามารถทำให้น้ำมันเครื่องไปกองอยู่มุมใดมุมหนึ่งของแคร็งจากการขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เครื่องยนต์ของ Ferrari F12 วางตัวอยู่ในระดับที่ต่ำมากกว่าปกติ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำยังช่วยให้ด้านหน้ามีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่นมีแรงดันของหัวฉีดไฟฟ้าสูงถึง 200 บาร์ เครื่องยนต์ถูกปรับให้สามารถแสดงประสิทธิภาพอย่างสูงสุดเมื่อวิ่งด้วยรอบ เครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกับรอบสูงสุดตั้งแต่ 2,500 รอบไปจนถึง 8,000 รอบต่อนาที และการปรับจูนก่อนออกจากโรงงานถูกเน้นไปที่แรงดึงมหาศาลในรอบปลาย ระบบส่งกำลังแบบ F1 ใช้คลัตช์ 2 ชุด พร้อมเฟืองท้ายแบบ E-Diff-3 เพิ่มสมรรถนะในการถ่ายเทแรงบิดทั้งหมดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อคู่หลังได้ อย่างมีประสิทธิภาพ



Suspension
Ferrari F12 วางระบบรองรับด้านหน้าแบบปีกนกคู่ที่ผลิตจากอะลูมินัมอัลลอย สปริงวางครอบอยู่ในกระบอกโช้คอัพ โดยช่วงล่างของมันทั้งเซตยกมาจาก Ferrari FF สปริง ลูกหมากกันโคลงและโช้คอัพถูกตั้งค่าใหม่ทั้งหมด ช่วงล่างใช้ระบบ Magnetorheological (SCM-E) มีระบบลดแรงเสียดทานภายในกระบอกโช้คอัพ ช่วยทำให้การตอบสนองต่อการยืดและยุบว่องไวมากยิ่งขึ้น คอยล์ประจุไฟฟ้า 2 ชุด ทำหน้าที่ปรับแรงดันในกระบอกโช้คให้มีความสมดุลกับสภาพของผิวทางและความเร็ว เพิ่มความแม่นยำและส่งถ่ายการยึดเกาะในระดับสูง ทำให้ F12 ขับขี่ได้ง่ายดายขึ้น ชุดคอยล์ประจุไฟฟ้าทำงานด้วยความรวดเร็วในระดับเสี้ยวของวินาที เพื่อรับผิดชอบคอนโทรลตัวถังและล้อที่สัมผัสกับพื้นถนน ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบกลไกกึ่งไฟฟ้าที่แปรผันน้ำหนักของพวงมาลัยไปตามความเร็ว ยางที่ล้อหน้ามีขนาด 255/35/ZR20 ส่วนล้อหลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนมีขนาดโตขึ้นที่ 315/30/ZR20 ระบบห้ามล้อของ Brembo ด้านหน้าเป็นคาร์ลิปเปอร์อัลลอย 6 พอต กับจานดิสก์แบบคาร์บอนเซรามิกที่มีการเซาะร่องตรงกลาง ผ้าเบรกมีส่วนผสมของคาร์บอนเพื่อความคงทน และรองรับอุณหภูมิที่เกิดจากการเบรกอย่างรุนแรงได้มากถึง 600 องศาเซลเซียส



The Body
ฐานล้อและขนาดของความกว้างในรถ F12 ถูกลดลงมาจากรุ่น FF เพื่อทำให้ตัวรถมีความแคบและเบากว่า โครงแซสซีส์แข็งแกร่งขึ้น 20 % ผลิตจากอะลูมินั่มอัลลอยขึ้นรูปด้วยแรงดันสูงตามแบบอย่างของรุ่นพี่และมีความเบามากกว่าจากเทคนิคใหม่ๆ ในสายการผลิต Ferrari เลือกใช้อัลลอยเนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถซ่อมแซมได้ดีกว่า โครงสร้างที่ทำจากคาร์บอนเคฟล่าห์ กรรมวิธีในการหล่อขึ้นรูปในขั้นตอนของการผลิตจึงแข็งแกร่งมากขึ้น 20 % เมื่อเทียบกับรถรุ่น 599 และเบาลงอีก 70 กิโลกรัมจนทำให้รถ F12 มีน้ำหนักตัวที่ 1,630 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าเบามากสำหรับซุปเปอร์คาร์ระดับ 730 แรงม้า

ข่าวยานยนต์
- ทิศทางยานยนต์ไทย ผ่านมุมมอง′บิ๊กโตโยต้า′ [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- เท่ขั้นเทพ 'WaterCar Python' สุดยอดพาหนะ ไม่สะท้านแม้น้ำครองโลก!! [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- 86 รถสปอร์ตยุคใหม่จากโตโยต้า [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- บางจาก-ปตท.ลดน้ำมัน กลุ่มโซฮอล์ลิตรละ 50 สต [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- โตโยต้าไทยร่อนจดหมาย เรียก"คัมรี-โคโรลล่า-วีออส-ยาริส" เข้าตรวจสอบสวิตช์กระจกไฟฟ้า 160,907 คัน [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- สุดจี๊ด ! มอเตอร์ไซค์"พลังไฟฟ้า" ซีโร่ เอฟเอ็กซ์ [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- "ฟอร์ด"เรียกคืน"เฟียสต้า" กว่า 150,000 คัน ระบบถุงลมนิรภัยมีปัญหา [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- รถสปอร์ตคูเป้รุ่นล่าสุดของ Toyota [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- 'Silver Fox' รถแห่งอนาคตที่ถูกลืมทิ้งไว้ในประวัติศาสตร์ [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
- HONDA FIT HYBRID RS ของดีที่อดขับ [19 กันยายน 2555 09:48 น.]
ดูทั้งหมด

ข้อควรปฎิบัติในการแสดงความคิดเห็น

  • ไม่โพสคำหยาบ

  • ไม่พาดพิงผู้อื่นในทางเสียหาย

  • ไม่พาดพิงถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพรักของชาวไทย

หากตรวจพบจะทำการลบข้อความนั้นๆ ทิ้งทันที

  แสดงความคิดเห็น

ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวขีดกลาง ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา รูปภาพ ลิ้งก์ ขนาดต้วอักษร สีต้วอักษร

ชื่อ: *
E-mail : *
ไม่ต้องการแสดง Email
รหัสตรวจสอบ : Security Image
* กรุณากรอกรหัสที่อยู่ในรูป

Engine by MAKEWEBEASY