สมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ แห่ฟ้องศาลปกครองสูงสุด หลังรัฐบาลหักดิบไตรภาคีไม่ขึ้นค่าแรงตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจ สัมพันธ์...

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พร้อมสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง จำนวน 150 คน เดินทางยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยกล่าวหาว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2554 และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2555 ที่มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจเพิ่มได้ในอัตรา ไม่เกินร้อยละ 5 แต่ต้องมีอัตราค่าจ้างเดิมรวมกับการปรับครั้งใหม่ไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อ พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 เพราะคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ซึ่งมี รมว.แรงงาน เป็นประธาน ได้มีมติชัดเจนให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งสามารถปรับขึ้นอัตราค่าจ้างแรงงานทุกตำแหน่งในอัตราร้อยละ 5 ของอัตราค่าจ้างที่ได้รับ โดยใช้งบประมาณของรัฐวิสาหกิจนั้น โดยไม่เป็นการผลักภาระให้ประชาชน และไม่กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลัง ในการนำรายได้ส่งคลังแผ่นดิน เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2553 ที่อนุมัติให้มีการปรับบัญชีขึ้นเงินเดือนค่าจ้าง และรายเดือนของบุคลากรภาครัฐ ในอัตราร้อยละ 5 ตามคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติเสนอ แต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีดังกล่าวกลับมีมติที่แตกต่างจากคณะกรรมการแรงงาน รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ไม่เคารพกฎกติการไตรภาคีที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543

นอกจากนี้ ยังเป็นมติคณะรัฐมนตรีที่ไม่เป็นธรรม เพราะไม่สอดคล้องกับการปรับบัญชีขึ้นเงินเดือนค่าจ้างและรายเดือนของบุคลากร ภาครัฐ ในอัตราร้อยละ5 ตามคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติเสนอ จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2554 เฉพาะเรื่องการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2555 กรณีการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ และให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจได้รับการปรับอัตราค่าจ้าง ขึ้นร้อยละ 5 ทุกอัตรา.