จับจริงล็อคจริงวันแรกโดนล็อกไป201คัน ยกไปเก็บอีก23คัน
ผลการจับตามมาตรการ 5 จริงวันแรกสูงถึง 3,513 ราย พบจอดในที่ห้ามจอดถูกล็อคล้อมากสุด 201 คัน ถูกยกรถอีก 23 คัน
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่พล.ต.อ วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา(สบ.10) ดูแลงานจราจรได้มอบนโยบายแก้ไขปัญหารถติดภายใต้แนวคิดคืนพื้นผิวถนนสู่ประชาชน ตามมาตร 5 จริงคือ ยกจริง ล็อคจริง จับจริง ขังจริง สุภาพจริง โดยหลังจากที่มีการมอบนโยบายไปแล้วได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.ในพื้นที่เริ่มปฏิบัติการในวันจันทร์ที่ 9มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังจากนั้นจะต้องมีการรายงานผลการดำเนินการมายังบก.จร.ทุกวัน โดยวานนี้พบว่ามีผลการดำเนินการจับผู้ฝ่าฝืนที่จอดรถในที่ห้ามจอดของกองบังคับการตำรวจนครบาล(บก.น)1-9และกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร. )ทั้งหมด 3,513 ราย ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามมาตรการ 5 จริงทั้งหมด 224 ราย พบว่าเป็นมาตรการยกรถทั้งหมด 23ราย เป็นพื้นที่บก.น.1มากสุดจำนวน 6 คัน มาตรการล็อคล้อ 201คัน โดยบก.น.6มียอดการจับกุมมากสุด 65 ราย นอกจากนั้นเป็นผลการจับกุมในข้อหากวดขันวินัยจราจรจำนวน 3,501 ราย ซึ่งบก.จร.มียอดการกวดขันวินัยจราจรมากที่สุดถึง 1,546 ราย อย่างไรก็ตามการสรุปผลการดำเนินการดังกล่าวเป็นการสรุปเฉพาะของวันที่ 9เท่านั้น โดยแต่ละวันจะมีการสรุปผลการดำเนินการอย่างต่อ
เนื่อง
ด้านพ.ต.อ.พรชัย ไทยแท้ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล6 (บก.น6) ดูแลงานจราจร กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้บก.น.6มีผลการจับกุมมากสุดนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอาทิย่านพาหุรัด ปากคลองตลาด เยาวราช คลองถม ประกอบกับในพื้นที่มีที่จอดรถน้อยไม่เพียงพอสำหรับรองรับการมาซื้อของของประชาชนจึงทำให้มีการฝ่าฝืน และยังเป็นเส้นทางในกาจก่อสร้างรถไฟฟ้า อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการทีจะดำเนินการต่อไปจะเร่งเสริมสร้างวินัยการจราจรให้มากที่สุดเพื่อลดจำนวนผู้กระทำความผิด และตนอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง แต่เป็นการกระทำเพื่อลดปัญหาการจราจรในพื้นที่เท่านั้น ทั้งนี้เป้าหมายสถิติการจับกุมไม่ใช่ตัวชี้วัดการทำงานของตำรวจในท้องที่
|