เสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถไฟฟ้า BTS ในวันประกาศเคอร์ฟิว
หลังจากเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ค. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 42 เรื่องแก้ไขห้วงเวลา ห้ามออกนอกเคหะสถาน โดยระบุว่า เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน คสช.จึงประกาศเคอร์ฟิวใหม่จากเดิมห้ามออกนอกเคหะสถานเวลา 22.00-05.00 น. เป็นเวลา 00.01-04.00 น. แทน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2557 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า BTS ที่มีผู้ใช้บริการต่อวันจำนวนมาก เพราะมีการเดินทางที่รวดเร็วมากกว่ารถสาธารณะประเภทอื่นๆ ผู้คนจึงหนีรถติดมาพึ่งรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS)
“เดลินิวส์ออนไลน์” สอบถามความคิดเห็นของผู้โดยสารที่ใช้รถไฟฟ้า BTS มาให้ทราบกันว่า “ในวันที่ประกาศเคอร์ฟิวรถไฟฟ้ามีความจำเป็นแค่ไหน”
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ อย่างการชุมนุมประท้วงจะมีเจ้าหน้าที่กทม.และเจ้าหน้าที่ทหารมาประสานขอความร่วมมือ เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย เนื่องจากมีปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้า BTSหนาแน่นจึงทำให้การรักษาความปลอดภัยทำได้ลำบาก ดังนั้นจึงใช้วิธีปิดแค่บางสถานีที่มีการชุมนุมประท้วงในเวลานั้น และในช่วงนี้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดไว้ก่อน เช่น การเปิดไฟฟ้าแสงสว่างในระบบเต็มที่ มีสปอตไลท์ส่องไปที่ทางวิ่ง และนำรถไฟฟ้ามาจอดในสถานีเพื่อความปลอดภัย
นายสุรพงษ์ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ตั้งแต่ 28 พ.ค. 2557 รถไฟฟ้า BTSจะเปิดให้บริการผู้โดยสารทั้งสองเส้นทาง ทั้งสายสุขุมวิทและสายสีลม ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. โดยรถไฟฟ้าขบวนแรกจากสถานีปลายทางสายสุขุมวิทจะเริ่มเวลา 05.15 น. และสายสีลม 05.30 น. หากมีการเปลี่ยนแปลงการให้บริการ บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไปทุกช่องทางการสื่อสาร
ด้านน.ส.ภัทราพร พนักงานบริษัทเอกชนที่โดยสาร BTS เป็นประจำ เล่าว่า ตอนที่มีประกาศเคอร์ฟิวให้เข้าบ้านก่อนสี่ทุ่ม การใช้ชีวิตเปลี่ยนต้องเผื่อเวลาการเดินทาง เพราะรถบริการสาธารณะต่างๆ หยุดให้บริการเร็วขึ้น ซึ่งวันแรกที่มีการประกาศเคอร์ฟิวใช้เวลาการเดินทางเป็นชั่วโมง เพราะต่างคนต่างแย่งกันกลับบ้าน โดยวันนั้นโชคดีที่มาทันรถไฟฟ้าBTS แต่คนเยอะมาก และในตอนนี้มีการเลื่อนเวลาเคอร์ฟิวก็ทำให้ชีวิตกลับมาเป็นปกติ
ส่วนน.ส. จันทิมา พนักงานร้านอาหารที่โดยสารรถไฟฟ้า BTS เล่าว่า วันแรกที่มีการประกาศเคอร์ฟิวทางร้านอาหารที่ทำงานอยู่จะปิดให้บริการก่อน ซึ่งในวันนั้นตนได้ออกจากที่ทำงานมาตอน 2 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่รถติดมาก โดยกังวลว่าจะมาไม่ทันรถไฟฟ้าซึ่งจะปิดให้บริการ3ทุ่ม โดยในตอนนั้นต้องนั่งรถมอไซค์จ้างเพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าเป็นวันที่ทุลักทุเลมาก เพราะทุกคนก็ต่างจะกลับบ้านเพราะเป็นการประกาศรัฐประหารวันแรก แต่ตอนนี้มีการประกาศเลื่อนเวลาที่เคอร์ฟิวรู้สึกว่าการใช้ชีวิตกับมาเป็นปกติแล้ว
ขณะที่นายวรุฒ พนักงานบริษัทเอกชน เล่าว่า การประกาศเคอร์ฟิวในวันแรก รู้สึกว่าวุ่นวายมาก เพราะมีความสับสนในเรื่องเวลาการให้บริการของรถสาธารณะ ซึ่งวันนั้นจำได้ว่าไปถึงรถไฟฟ้าประมาณ 1 ทุ่ม คนในสถานีเยอะมาก กว่าจะได้ขึ้นรถไฟฟ้ารอไป 3 ขบวน ทำให้วันถัดมาต้องปรับเปลี่ยนเวลาการเดินทางใหม่ โดยหลังๆ เริ่มชิน และมีการขยายเวลาเคอร์ฟิวรู้สึกว่าดี เพราะจะช่วยให้คนที่ทำงานเลิกดึกไม่ต้องลำบาก
อย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตของคนในเมืองหลวงเป็นไปด้วยความเร่งรีบ ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกวันไม่ได้เฉพาะวันที่ประกาศเคอร์ฟิว.
|