แม้ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยจะยังคงคลุมเครือ หลายปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่สิ่งที่แน่นอนในวันนี้คือการชุมนุมที่ยืดยาวของกลุ่มคณะประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) จบลงแล้ว นั่นหมายถึงผู้นำการเคลื่อนไหวก็ต้องยุติบทบาทของการเป็นผู้นำด้วยเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่หลายคนอยากทราบคือชีวิตหลังจบการต่อสู้ของแกนนำว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

         ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร เปิดใจกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ถึงชีวิตหลังการต่อสู้กับมวลมหาประชาชนในฐานะหนึ่งในแกนนำกปปส.ว่า ตอนนี้ได้กลับมาอยู่บ้านแล้วหลังจากถูกคณะรักษาความสงบเรียบร้อย(คสช.) ควบคุมตัว3วัน3คืน ซึ่งนี่ถือเป็นการกลับบ้านครั้งแรกในรอบกว่า4เดือน ทำให้รู้สึกดีใจมาก เพราะที่ผ่านมาเป็นห่วงคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง2คนเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกใจหายเช่นกันที่จะไม่ได้พบเจอ พูดคุยกับมวลมหาประชาชนอีกแล้ว  ตั๊น เล่าว่า ในช่วงนี้คงจะหยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ยังไม่มีแผนที่จะออกไปเที่ยวที่ไหน อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากกว่า เพราะตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือที่ผู้ใหญ่หลายท่านให้มาตั้งแต่ช่วงที่มีการชุมนุมให้หมด ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ชีวิตประจำวันของตนเองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักระยะหนึ่ง เพราะก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมชีวิตส่วนใหญ่จะหมดไปกับการทำงานที่พรรคประชาธิปัตย์และลงพื้นที่พบกับพี่น้องประชาชนต่อข้อซักถามเกี่ยวกับบทบาททางการเมือง ตั๊น เผยว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับกับทางพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ตั้งใจว่าในระหว่างที่คสช.กำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ส่วนตัวจะกลับไปลงพื้นที่เขตดุสิต-ราชเทวี 

         เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชนตามที่พรรคได้มอบหมายให้ในฐานะรองโฆษกของพรรคประชาธิปัตย์ และหากการปฏิรูปประเทศเรียบร้อยแล้วก็มีสิทธิที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งตามที่ตนและแกนนำเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ และแม้ว่าอนาคตทางการเมืองยังไม่แน่นอน“จะกลับไปเล่นการเมืองหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เพราะที่ผ่านมาเป้าหมายของการต่อสู้ของกปปส.คือ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งในวันนี้ทหารได้ออกมาประกาศยึดอำนาจ ทำให้มีการเริ่มต้นปฏิรูปประเทศตามแนวทางของกปปส.แล้ว ดังนั้นคงต้องรอดูวิธีการของทหารก่อนว่าเป็นอย่างไร” ตั๊น กล่าวอย่างไรก็ตาม ประชาชนคงต้องติดตามต่อไปว่าเส้นทางการเมืองของสาวน้อยนักต่อสู้คนนี้จะไปได้ยาวไกลหรือจะต้องสิ้นสุดลงพร้อมกับบทบาทของ “แกนนำกปปส.”